ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารไหลเวียนอย่างรวดเร็วและการแข่งขันทางสังคมสูงขึ้น คนรุ่นใหม่หรือ Gen Z และ Millennial เริ่มสนใจและให้ความสำคัญของการดูแลสุขภาพและการพักผ่อนมากขึ้น จากที่เคยมีค่านิยม “ทำงานหนักเพื่อความสำเร็จ” ได้เปลี่ยนมาเป็น “ทำงานอย่างมีสมดุลเพื่อความสุข” มุ่งสนใจเป้าหมายด้านสุขภาพและความสุขในระยะยาวมากขึ้น
ทำไมคนรุ่นใหม่ถึงให้ความสำคัญกับสุขภาพ
การเปลี่ยนแปลงของค่านิยมนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ คนรุ่นใหม่เติบโตมากับเทคโนโลยี เห็นความเร่งรีบของโลกและได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของรุ่นพ่อแม่ที่อาจทำงานหนักจนขาดเวลาให้ครอบครัวหรือตัวเอง พวกเขาจึงเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างมีสติมากขึ้น นอกจากนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพจิตและสุขภาพกายก็เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทำให้คนรุ่นใหม่เข้าใจถึงผลกระทบของความเครียด การนอนไม่พอ และการไม่ออกกำลังกาย จึงหันมาให้ความสำคัญกับการป้องกันมากกว่าการรักษา
เทรนด์การดูแลสุขภาพที่กำลังฮิต
1. Mindfulness และการทำสมาธิ การทำสมาธิไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในศาสนาอีกต่อไป แอปพลิเคชันอย่าง Headspace หรือ Calm ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะช่วยให้การทำสมาธิเข้าถึงได้ง่าย เพียงแค่ 10-15 นาทีต่อวัน ก็สามารถช่วยลดความเครียดและเพิ่มสมาธิได้
2. การออกกำลังกายแบบ Functional Fitness แทนที่จะเน้นการสร้างกล้ามเนื้อเพื่อความสวยงาม คนรุ่นใหม่หันมาสนใจการออกกำลังกายเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โยคะ พิลาทิส หรือการฝึกความแข็งแรงของแกนกลางร่างกายเพิ่มมากขึ้น
3. การนอนหลับที่มีคุณภาพ “Sleep Hygiene” กลายเป็นคำที่คนรุ่นใหม่รู้จักกันดี การปรับห้องนอนให้เหมาะสม การใช้แอปติดตามการนอน และการหลีกเลี่ยงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน กลายเป็นกิจวัตรที่หลายคนปฏิบัติ
4. Nutrition Mindfulness การกินอย่างมีสติ ไม่ใช่แค่การเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่รวมถึงการใส่ใจกับความรู้สึกขณะกิน การเคี้ยวช้า ๆ และการรับรู้สัญญาณความหิวอิ่มของร่างกาย ก็เป็นอีกเทรนในหมู่คนรุ่นใหม่
ความท้าทายและการปรับตัว
แม้จะมีความตั้งใจดี แต่การดูแลสุขภาพในยุคปัจจุบันก็มีความท้าทายไม่น้อย การทำงานแบบ Remote หรือ Hybrid ทำให้ขอบเขตระหว่างการทำงานและการพักผ่อนเบลอ ความกดดันทางสังคมจากโซเชียลมีเดียก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง คนรุ่นใหม่จึงต้องเรียนรู้ที่จะ “Digital Detox” หรือการใช้เวลาห่างจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การตั้งขอบเขตที่ชัดเจนในการทำงาน และการหาสังคมที่มีค่านิยมคล้ายคลึงกัน
นอกจากนั้น เทรนด์นี้ไม่ได้ส่งผลแค่ต่อบุคคลเท่านั้น องค์กรต่าง ๆ เริ่มปรับนโยบายเพื่อรองรับพนักงานรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการให้ความยืดหยุ่นในการทำงาน การจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ หรือการสนับสนุนให้พนักงานใช้วันหยุดพักผ่อนอย่างเต็มที่ ระบบสาธารณสุขก็เริ่มให้ความสำคัญกับการป้องกันและสุขภาพจิตมากขึ้น เพราะตระหนักว่าการลงทุนในสุขภาพของประชาชนจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลในระยะยาว
เริ่มต้นอย่างไร
สำหรับคนที่อยากเริ่มดูแลสุขภาพแต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร แนะนำให้เริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ง่าย ๆ ก่อน
- เริ่มจากการนอน ลองปรับเวลานอนให้สม่ำเสมอและสร้างบรรยากาศห้องนอนที่เอื้อต่อการพักผ่อน ช่วยให้การนอนหลับเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เคลื่อนไหวร่างกายทุกวัน ไม่จำเป็นต้องไปยิม แค่วิ่ง เดินบันได หรือยืดเส้นยืดสาย 15 นาที เป็นประจำ เป็นการเริ่มต้นการออกกำลังกายที่ดี
- หาเวลาเงียบ ๆ ในระหว่างวัน แค่ 5 นาที แต่การหายใจลึก ๆ หรือนั่งเงียบ ๆ โดยไม่ดูโทรศัพท์ ก็เป็นการพักสายตาและสร้างสมาธิได้
- กินอาหารอย่างมีสติ ลองใส่ใจกับรสชาติ ความรู้สึกขณะรับประทานอาหาร และเคี้ยวอาหารให้ช้าลง ช่วยระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดีขึ้น
เทรนด์การดูแลสุขภาพของคนรุ่นใหม่ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงค่านิยมที่จะส่งผลต่อสังคมในระยะยาว เมื่อคนรุ่นใหม่เข้าสู่ตำแหน่งผู้นำในอนาคต วัฒนธรรมการทำงานและการดำเนินชีวิตจะเน้นความสมดุลและสุขภาพมากขึ้น
การดูแลสุขภาพไม่ใช่เรื่องหรูหรา แต่เป็นความจำเป็นพื้นฐานของการใช้ชีวิต การเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ เพราะการลงทุนในสุขภาพจิตและร่างกายตั้งแต่วัยหนุ่มสาวจะช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้นในอนาคต และเป็นการสร้างสังคมที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับอนาคต